กระดังงา

กระดังงา พรรณไม้เอเชียที่มีกลิ่นหอมเย้ายวน

กระดังงา (Ylang-ylang) เป็นไม้ดอกยอดนิยมอีกหนึ่งชนิด มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cananga odorata (Lamk.) Hook.f. et Th. อยู่ในวงศ์ Annonaceae มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียเขตร้อนในแถบประเทศฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ถือเป็นไม้ดอกที่คนไทยนิยมนำมาปลูกประดับไว้ตามบ้านเรือน และสถานที่ต่าง ๆ


กระดังงาเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สามารถสูงได้ถึง 8 – 15 เมตร เปลือกต้นเกลี้ยงสีเทา มีลักษณะเป็นพุ่มทรงโปร่ง ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบมีลักษณะเป็นรูปวงรีหรือรูปใบหอก ขอบใบเป็นคลื่น ใบกว้าง 5 – 7 เซนติเมตร และยาว 13 – 20 เซนติเมตร

ดอกกระดังงาจะออกเป็นช่อขนาดใหญ่ โดยจะออกดอกบนกิ่งเหนือรอยแผลใบ ช่อดอกแยกเป็นแขนง ซึ่งในแต่ละช่อจะมีดอกประมาณ 3 – 6 ดอก ก้านช่อดอกมีขน ก้านดอกยาวประมาณ 2 – 4 เซนติเมตร ดอกย่อยเป็นสีเหลืองอมเขียวหรือสีเขียว มีกลิ่นหอม ส่วนผลจะออกเป็นกลุ่มประมาณ 4 – 12 ผล มีลักษณะเป็นรูปไข่ สีเขียวเข้ม เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลประมาณ 2 – 12 เมล็ด

   ต้นกระดังงาจัดเป็นไม้มงคลที่มีความเชื่อว่าจะช่วยเสริมให้ผู้ปลูกเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดัง มีเงินทองมากมาย พร้อมกับลาภยศ ทำให้ผู้คนนับหน้าถือตา หากต้องการปลูกเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้ปลูกไว้ในทิศตะวันออกของบ้าน

กระดังงาเป็นพืชที่ชอบดินร่วนซุย ชอบแสงแดดจัด ควรปลูกไว้ในบริเวณกลางแจ้ง ควรให้น้ำประมาณ 5 – 7 วัน/ครั้ง ส่วนการให้ปุ๋ยควรใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตราส่วน 1 : 2 กิโลกรัม/ต้น โดยให้ใส่ปุ๋ยปีละ 4 – 6 ครั้ง สำหรับการขยายพันธุ์สามารถทำได้โดยวิธีเพาะเมล็ด และตอนกิ่ง

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *