ชมพูพันธุ์ทิพย์ ซากุระเมืองไทย ที่ไม่ได้แค่สวยเท่านั้น แต่ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้
ชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า ดอกซากุระเมืองไทย เป็นไม้ยืนต้นที่นิยมปลูกกันเพื่อให้ร่มเงา และประดับตกแต่งอาคาร บ้าน หรือริมถนนสองข้างทาง เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตไว แถมยังทนทานต่อสภาวะอากาศที่ร้อน และแห้งแล้งได้ดี ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมปลูกกันในพื้นที่ลานกว้าง หรือสวนสาธารณะ โดยดอกของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ จะบานสะพรั่งให้เราได้ชมความสวยงามกันในช่วงปลายเดือนมกราคม จนถึงช่วงเดือนมีนาคาของทุกปี เรียกได้ว่าเมื่อดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งเต็มที่แล้วนั้น จะให้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก เหมือนกับเราได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกเทพนิยายเลยทีเดียว
ชมพูพันธุ์ทิพย์มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tabebuia rosea (Bertol.) DC. จัดอยู่วงศ์ Bignoniaceae และมีชื่อภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกกันทั่วไปว่า Pink Tecoma, Pink Trumpet Tree และ Rosy Trumpet-tree ส่วนในไทยจะนิยมเรียกกันว่า ชมพูอินเดีย แตรชมพู และตาเบบูญ่า ทั้งนี้ชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ ความสูงประมาณ 8-25 เมตร แตกกิ่งแผ่กว้างเป็นชั้น เรือนยอดรูปไข่หรือทรงกลม ลำต้นขนาดใหญ่ เปลือกลำต้นเรียบสีน้ำตาลหรือสีเทา แต่เมื่อมีอายุมากแล้วเปลือกของลำต้นจะแตกเป็นร่อง กิ่งเปราะหักง่าย ใบเป็นใบประกอบรูปนิ้วมือ ใบเรียงตรงกันข้าม มีใบย่อย 5 ใบ แผ่นใบหนาขอบเรียบ สีเขียวเข้ม ปลายใบเรียว โคนใบสอบ ใบคล้ายรูปไข่แกมรูปรี ออกดอกเป็นช่อ กระจุกตามกิ่ง ช่อละ 5-8 ดอก กลีบดอกมีทั้งสีชมพูอ่อน ชมพูสด และสีขาว ตรงกลางดอกมีสีเหลือง ดอกบานเต็มที่จะมีความกว้างประมาณ 5-8 เซนติเมตรด้วยกัน
วิธีการปลูกและดูแลชมพูพันธุ์ทิพย์
สำหรับต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ นิยมปลูกด้วยการเพาะเมล็ด ใช้ดินในการปลูกได้ทุกชนิด แต่ดินที่ดีที่สุดคือ ดินร่วน เนื่องจากระบายน้ำและถ่ายเทอากาศได้ดี ควรปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดตลอดทั้งวัน ทั้งนี้สามารถปลูกลงในกระถางได้ โดยการโรยเมล็ดลงในกระถางและใส่ทราย หรือขุยมะพร้าว พร้อมกับรดน้ำให้ชุ่ม จากนั้นเมื่อได้ลำต้นที่มีขนาดประมาณ 1 ฟุตให้ย้ายไปปลูกในพื้นที่ที่ต้องการได้เลย แต่ทั้งนี้ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน หากเราปลูกชมพูพันธุ์ทิพย์ภายในบริเวณบ้านเรา ควรปลูกให้ห่างออกจากตัวบ้านประมาณ 4 เมตรขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้รากชอนไชเข้าไปใต้ตัวโครงสร้างบ้าน เพราะอาจจะสร้างความเสียหายต่อตัวบ้านได้
ในส่วนของประโยชน์ของชมพูพันธุ์ทิพย์ไม่ได้ใช้ประดับตกแต่งบ้านเท่านั้น แต่ยังสามารถนำใบมาต้มทำเป็นยาช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย หรือตำใบให้ละเอียดและนำมาพอกแผลได้เช่นกัน ส่วนลำต้นและเยื่อไม้สามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงและทำเป็นกระดาษได้