หัวปลี ประโยชน์ที่หลายคนมองข้าม

หัวปลี หรือ banana blossom คือส่วนที่เป็นดอก ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของต้นกล้วย มีลักษณะคล้ายกับดอกบัวที่ตูมแต่ มีขนาดใหญ่และยาวกว่า โดยกลีบใบประดับด้านนอกนั้นจะเป็นสีแดงอมม่วงเรียงซ้อนกัน ด้านในกลีบจะมีผลกล้วยเล็กๆ ที่เรียกว่ากล้วยตีนเต่า

ซึ่งเกิดจากการที่เกษรตัวเมียไม่ได้ถูกผสม จึงทำให้มันไม่สามารถกลายเป็นกล้วยขนาดใหญ่ที่อยู่ในเครือได้ โดยปกติแล้วชาวสวนมักจะตัดหัวปลีทิ้ง หรือตัดมาเพื่อประกอบอาหาร เพราะถ้าไม่ตัดมันจะแย่งสารอาหาร ทำให้กล้วยที่อยู่ในเครือไม่สามารถเจริญเติบโตได้

แต่ใครจะคิดว่าหัวปลีที่ถูกตัดทิ้งจนถูกลืมเลือนนี้ จะเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย เพราะมีทั้งเส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซีเป็นต้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายดังต่อไปนี้

1. เหมาะสำหรับสตรีหลังคลอด เนื่องจากหัวปลีมีส่วนช่วยในการผลิตน้ำนมแม่ และเพิ่มสารอาหารในน้ำนมให้มากขึ้น
2. ช่วยลดปัญหาประจำเดือนมาผิดปกติ และปวดท้องช่วงเป็นประจำเดือน
3. ช่วยดูแลและลดปัญหาทางเดินระบบอาหารเช่น ป้องกันการเกิดโรคกระเพาะ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย อีกทั้งยังช่วยบำรุงดูแลระบบลำไส้

4. ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตภายในร่างกายดีขึ้นและช่วยบำรุงโลหิต ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะโลหิตจาก
5. ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยรักษาแผลในช่องปากอีกด้วย
6. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยดูแลผิวพรรณให้สวยงาม ชะลอริ้วยรอบแห่งวัย นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดดรคมะเร็ง
7. ช่วยรักษาแผลได้ทั้งแผลสด แผลเรื้อรัง แผลที่เกิดจากการติดเชื้อ และยังช่วยรักษาแผลที่เกิดจาดการโดนแมลงสัตว์ กัดต่อย รวมถึงลดการอักเสบ

นอกจากจะมีสรรพคุณทางด้านยาแล้วหัวปลีก็ยังเป็นที่นิยมนำมารับประทานสดๆ เป็นผักเคียงคู่กับน้ำพริก ผัดไท หรือจะนำมาใส่เป็นส่วนประกอบอาหารอย่างเช่น ต้มยำหัวปลี ยำหัวปลี

นอกจากนี้ยังมีน้ำหัวปลีสกัด เพื่อสะดวกแก่การรับประทาน อีกทั้งยังเป็นที่นิยมมากสำหรับคุณแม่หลังคลอดอีกด้วย อย่างไรก็ตามเราควรบริโภคหัวปลีในปริมาณที่พอดี เนื่องจากแป้งในหัวปลีสามารถแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ทันที ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานควรรับประทานในปริมาณน้อย