เปราะหอม ว่านสมุนไพร สมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นที่นิยมกันมาอย่างยาวนาน
เปราะหอม หรือ Sand ginger เป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน หรือที่เรียกกันว่าเหง้า ซึ่งมีสีเหลืองอ่อนหรือสีเหลืองเข้ม อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และยังมีรสเผ็ดอีกด้วย ใบมีสีเขียวค่อนข้างหน้าโผล่ขึ้นมาจาดพื้นดินต่อจากเหง้า
โดยใบแผ่ราบไปตามพื้นประมาณ2-3 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปทรงค่อนข้างกลม ปลายใบแหลม ส่วนโคนใบนั้นจะโค้งมน โดยเราสามารถแบ่งประเภทเปราะหอมได้เป็น 2 ประเภทโดยแบ่งจากสีของใบคือ”เปราะหอมขาว” จะมีท้องใบสีขาว แต่ถ้าหากเป็น “เปราะหอมแดง” ท้องใบนั้นจะมีสีแดง ออกดอกรวมกันเป็นช่อ โดยตรงกลางสีขาวหรือสีขาวอมชมพูแต้มด้วยสีม่วง ส่วนผลนั้นจะเป็นผลแห้งและแตกออก
สมุนไพรเปราะหอมจัดได้ว่าเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นที่นิยมกันมาอย่างยาวนาน ในอดีตนั้นจะนิยมนำมาประกอบอาหารเป็นพิเศษ เนื่องจากมันมีกลิ่นหอม และมีรสชาติเผ็ดร้อนที่ช่วยทำให้อาหารอร่อย นอกจากนี้มันยังมีสรรพคุณในการช่วยดูแล รักษาร่างกายอีกด้วย ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ และเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
- รักษาอาการปวดศีรษะและมีฤทธิช่วยคลายเครียด ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น
- นำมาตำแล้วป้ายคอ เพื่อรักษาอาการเจ็บคอ
- ใช้รักษาอาการร้อนใน อาการไข้ อีกทั้งยังช่วยลดการกระหายน้ำได้อีกด้วย
- ใช้ทาเพื่อลดอาการอักเสบของฝี นอกจากนี้ยังสามารถรักษาโรคผิวหนัง รักษาอีสุกอีใส ฆ่าเชื้อรา และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น
- ช่วยขับของเสียออกจากร่างกายเช่น ขับหนอง ขับเลือดเสีย ขับเสมหะ และขับประจำเดือนของสตรี
- ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานดีขึ้น รักษาอาการจุก เสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย รวมทั้งปวดท้องด้วย
- รักษาโรคเกี่ยวกับตาเช่น ตาแดง ตาแฉะ ตาเจ็บ เป็นต้น
ถึงแม้ว่าจากการศึกษาจะยังไม่พบว่าการบริโภคเปราะหอมจะมีอันตรายต่อร่างกาย แต่การบริโภคหรือการใช้ประโยชน์จากมันในเรื่องของสรรพคุณทางสมุนไพรนั้น ก็ควรใช้ในปริมาณที่พอดีเหมือนกับสมุนไพรชนิดอื่น เพราะถ้าหากใช้ในปริมาณที่มากเกินความพอดี ก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการใช้เช่นกัน